การเลือกซื้อเครื่องยนต์มือสอง

การเลือกซื้อเครื่องยนต์มือสอง

 
 
 

 

เมื่อเครื่องยนต์ตัวเก่าของเราเกิดกลับบ้านเก่าไปแล้ว หรือพยามที่จะซ่อมแซมให้ฟื้นคืนชีพแล้ว แต่ก็ทำไม่ไหว หรืออีกประเภทพวกรู้สึกว่าอยากจะเพิ่มพลังให้กับรถเสียใหม่ และประการหลังสุดที่กำลังฮิตติดลมบนสมัยนี้คือแบบพวกที่บอกอำลาเครื่องยนต์ดีเซล แล้วหันมาคบกับเครื่องยนต์เบนซิลแล้วยิงแก๊ส เป็นเหตุให้ต้องหาเครื่องยนต์มาเปลี่ยนใหม่ จะหาเครื่องยนต์ใหม่ๆมือหนึ่งจากศูนย์ ราคาก็คงพอๆกับซื้อรถใหม่ เครื่องยนต์มือสองจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เนื่องจากราคาที่ถูกกว่ามาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพว่าเจ้าของเดิมใช้มามากน้อยแค่ไหน อายุการใช้งาน และการดูแลสภาพเครื่องยนต์ของเจ้าของเก่าด้วย เรามาดูกันครับว่าเครื่องยนต์มือสอง เขามีวิธีการเลือกเครื่องกันอย่างไง จึงจะได้ของดีมีคุณภาพ จะได้ไม่ต้องซื้อมาซ่อมกันจนต้องปวดหัว
มารู้กันก่อนว่าเขาเอากันมาจากไหนอย่างไร 
เครื่องยนต์มือสองที่เราเห็นตามร้านขายอะไหล่เก่าญี่ปุ่น ตามเชียงกงปทุมวัน บางพลี พระราม 3 หรือแถวหลักสี่ ส่วนใหญ่แล้วเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้แล้วจากประเทศญี่ปุ่น และอีกหลายๆประเทศ ซึ่งร้านขายเครื่องยนต์มือสองบ้านเราจะดั้งด้นไปซื้อมาแถวๆสุสานรถเก่า ซึ่งพ่อค้าเครื่องเขาจะเรียกกันว่า จั้ง เป็นที่รวบรวมรถรถเก่าที่เขาไม่ใช้งานกันแล้วเอามารวมกองเป็นภูเขาซ้อนๆกันเหมือนในหนัง เพื่อรอการขายอะไหล่ และเอาที่เศษเหลือไปรีไซเคิล พ่อค้าบ้านเราก็จะไปขอซื้อมาเป็นคันๆ แล้วเช่าสถานที่ในการถอดอะไหล่เป็นชิ้นๆ แล้วตัดเอาอะไหล่ที่ขายได้ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ แล้วส่งใส่เรือกลับมาขายในบ้านเรา
ทำไมรถยนต์เก่าต่างประเทศเขาจึงมีเยอะจัง 
เพราะว่าในประเทศที่เขา ( คิดว่า ) เจริญแล้ว เขาจะไม่นิยมซ่อมรถใช้กันเหมือนบ้านเรา เป็นเพราะว่าค่าแรงซ่อมแพงมากๆเป็นสิบเท่าตัวของค่าแรงซ่อมบ้านเรา แต่ราคารถกลับถูกกว่าบ้านเราเป็นหลายเท่า เช่นเวลาเกิดการชนกันที ค่าซ่อมบ้านเราหมื่นกว่าบาท แต่บ้านเขาตั้งแสนกว่าดูๆกันแล้วเปลี่ยนรถใหม่ดีกว่าไม่ต้องซ่อม เสียเวลา ไม่จุกจิก แถมเอาทะเบียนคันเก่ามาแปะรถคันใหม่แล้วใช้ได้เลย หรือส่วนใหญ่แล้วคนญี่ปุ่นมักคิดว่ารถมีอายุการใช้งานแค่ 4 ปี แล้วก็หมดอายุต้องซ่อมแล้วขายซากดีกว่า ชนิดคนญี่ปุ่นบางคนใช้รถอยู่ดีๆพอสตารท์ไม่ติดทีเดียวเพราะแบตเตอร์รี่เสีย พาลลำคราญเอารถไปขายซาก แล้วซื้อรถรุ่นใหม่ๆสวยๆดีกว่า คิดแล้วน่าอิจฉา ไม่เหมือนบ้านเรา รถก็แพง อะไหล่ก็แพงก็ต้องทนๆซ่อมๆใช้ๆกันไป พวกนี้หละครับเขาก็จะเอามารวมกันที่ จั้งและทำการแยกขายอะไหล่เก่า ดั้งนั้นซากรถบ้านเขาถึงได้เยอะแยะเลย
จะเลือกซื้อเครื่องมือสองต้องดูอะไรบ้าง
1. ท่อน้ำและท่อยางต่างๆ ดูว่าท่อมีอาการเปลื่อย นิ่ม บวมอย่างไร สีของขี้สนิมในท่อยางว่ามีสนิมหรือไม่ ถ้าท่อเก่าเปลื่อย แสดงว่าอายุการใช้งานมาก ท่อนิ่มบวมเครื่องอาจจะมีปัญหาเรื่องความร้อน ถ้ามีสนิมในท่อแสดงว่าเครื่องเริ่มผุเก่า น้ำในหม้อน้ำไม่ค่อยเปลี่ยนถ่าย ไม่ใช้น้ำยาป้องกันสนิม แต่ต้องระวังร้านรู้มากเอาท่อยางมาสับเปลี่ยนด้วยครับ
2. ฝาเติมน้ำมันเครื่อง ควรเปิดเพื่อดูคราบน้ำมันบนฝาน้ำมันเครื่องว่ามีสีและกลิ่นอย่างไร เช่นถ้าเป็นสีดำสะเก็ดแข็งๆ แสดงว่าเครื่องใช้งานมานานเริ่มเก่า ไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ้าดำมากๆและเหม็นไหม้ เครื่องอาจมีปัญหาความร้อน หรือบนฝามีคราบเหนียวๆสีขุ่นๆ หรือมีขี้สนิมเกาะนิดๆแสดงว่าเครื่องอาจพัง มีปัญหาเรื่องฝาสูป หรือน้ำเข้าห้องเผาไหม้แล้ว
3. ในฝาครอบวาวล์ เปิดฝาน้ำมันเครื่องลองพยามมองดูถ้าเห็นสังเกตดูสีของคราบน้ำมันเครื่องที่เกาะบนชุดราวลิ้น ว่ามีสีอย่างไร เครื่องที่ดีต้องเป็นสีเหลืองนวลๆ หรือแทบจะไม่มีคราบเกาะเลย ถ้าไม่แน่ใจต้องพยายามหลอกล่อให้ทางร้านยอมเปิดให้ดูให้ได้
4. ก้านวัดน้ำมันเครื่อง ยกดูและสังเกตสีของน้ำมันเครื่องที่ติดมา ถ้าเป็นสีดำเหนียวข้นแสดงว่าไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ้ามีสีอื่นๆเช่นครีมขาว หรือมีไอน้ำปนอยู่ แสดงว่าเครื่องอาจจะพังแล้ว
5. สายพานหน้าเครื่อง สังเกตเครื่องที่ใช้สายพานหน้าเครื่องบางตัว จะมีป้ายบอกกิโลเมตรระยะการเปลี่ยนสายพานไทมมิ่ง ว่าเปลี่ยนมาที่ระยะกี่กิโล พอจะมาใช้เพื่อคำนวณสภาพเครื่องได้
6. ซีลและท่อน้ำมันต่างๆ สังเกตว่ามีน้ำมันรั่วซึมมากแค่ไหน ท่อยางเป็นอย่างไร ลองบีบดูถ้าท่อยางมีอาการแข็งมีรอยแตกร้าว มีน้ำมันรั่วซึม แสดงว่าอายุการใช้งานนาน ปรกติถ้าท่อจะแข็งต้องมีอายุการใช้งานเกินกว่า 200,000 กิโลแล้ว
7. สตารท์เครื่อง แล้วฟังเสียงเหมาะกับผู้ที่ชำนาญ ลองให้ร้านสตารท์ให้ฟังเสียง สังเกตว่าสตราท์ติดง่ายแค่ไหน มีควันออกมาด้วยหรือไม่เป็นสีอะไรถ้าเป็นสีขาว ชัวร์เครื่องหลวมหรือแหวนมีปัญหา ถ้าเป็นสีดำอาจจะเป็นได้ว่าเครื่องหลวมเผาไหม้ไม่หมด หรือการต่อสายไฟ หรือเซนเซอร์มีปัญหา
8. สายหัวเทียน และสายไฟต่างๆ สายหัวเทียนของเครื่องยนต์หลายยี่ห้อ จะมีตัวเลขปีที่ผลิตเครื่องยนต์ว่าผลิตเมื่อไหร่ สามารถเช็คหรือประเมินอายุเครื่องได้ สายต้องไม่เก่าแตกลายงา สายไฟต่างๆต้องไม่มีการตัดต่อ หรือส่วนของสายไฟหลุดหายไป
9. อุปกรณ์ที่ติดกับเครื่อง การเลือกซื้อต้องให้ร้านจัดอุปกรณ์ให้ครบที่สุด โดยเฉพาะเครื่องหัวฉีด พวกนี้จะมีเซนเซอร์และอุปกรณ์พวกระบบไฟฟ้าและระบบน้ำมันต่างๆต้องตรงกับเครื่องและดีที่สุด และ ต้องเป็นตัวเดียวกับที่ติดเครื่องมา จะให้ได้เครื่องที่จะนำมาวางได้สมบูรณ์ที่สุด มีผลกับความแรง และ การกินน้ำมันเชื้อเผลิง
10. การรับประกัน โดยส่วนใหญ่ร้านเชียงกงจะมีระบบรับประกันเครื่องยนต์ และ อะไหล่ เช่น 7 วัน 15 วัน ควรจะถามถึงและต่อรองการยืดอายุประกันให้ได้นานที่สุด เพราะเมื่อซื้อเครื่องมาแล้วต้องเสียเวลาในการวางของช่าง บางทีอาจเกินอายุประกันก่อนจะเสร็จด้วยซ้ำ และต้องเผื่อช่วงทดลองการใช้งานอีก ว่ากินน้ำ กินน้ำมันเครื่อง หรือมีปัญหาระบบไฟ และอุปกรณ์อื่นๆด้วยหรือเปล่า
ข้อแนะนำ 
ในการเลือกซื้อที่ดีควรหาผู้ที่ชำนาญในการเลือกซื้อ และควรเลือกซื้อกับร้านที่ไว้ใจได้จะดีที่สุด เมื่อได้เครื่องมาแล้วควรทำการติดตั้งให้เร็วที่สุดก่อนหมดระยะประกันและอย่าพึ่งรื้อหรือทำอะไรกับเครื่อง เพราะร้านอาจจะอ้างว่าไม่รับประกันเ เมื่อมั่นใจแล้วว่าเครื่องดีไม่มีปัญหา ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆ เช่น สายพานไทมมิ่ง ซีลยางต่างๆ ลูกลอกต่างๆ ปั้มน้ำ ท่อยางท่อน้ำต่างๆที่เสี่ยงต่อการแตกรั่ว น้ำมันเครื่อง และ ใส้กรองน้ำมันเครื่องด้วยครับ

 

 
 
สนับสนุนเนื้อหาโดย thaispeedcar.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *