hfm control system benz 220

HFM Control system ซึ่งมีใช้อยู่ในรถเบนซ์รุ่น E220 ปี 93,220E,E280 ปี 93,280E,E320 ปี 93,320E เป็นเครื่อง 4 วาวล์/สูบ

– ระบบนี้เป็นระบบที่พัฒนาต่อมาจาก P – Motronic ที่ใช้เซนเซอร์วัดแรงดูดของอากาศที่ท่อไอดีเป็นตัววั ดปริมาณการใหลของอากาศที่เข้าเครื่องยนต์ มาเป็นการใช้ Hot film ซึ่งเป็นเส้นฟิล์มบางๆขึงขวางทางใหลของอากาศอยู่ใน Air mass meter ที่ปากท่อไอดีเป็นตัววัดแอร์โฟลแทน ซึ่งจะมีข้อดีกว่า KE Jetronic เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนอะไรไปเกะกะขวางทางเดินของอาก าศและสามารถตั้งค่าชดเชยได้ทั้งอุณหภูมิและความหนาแน ่นของอากาศ(ความกดอากาศเนื่องจากความสูง)ดังนั้นไม่ว ่าจะขึ้นเขาหรือลงห้วยก็ไม่มีปัญหาในเรื่องส่วนผสมขอ ง อากาศ/น้ำมัน อีกต่อไป การวัดใช้หลักการง่ายๆคือ ปล่อยไฟฟ้าเข้าไปในแผ่นบางๆนี้จำนวนหนึ่งจะทำให้แผ่น นี้ร้อนขึ้นที่อุณหภูมิค่าหนึ่ง เมื่อมีอากาศใหลผ่านจะทำให้ตัวมันเย็นลงแต่เพื่อรักษ าให้อุณหภูมิคงที่ตลอดเวลาจึงต้องเพิ่มไฟฟ้าให้มันอี กเพื่อให้ร้อนเท่าเดิมตลอด ปริมาณไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงนี้จะขึ้นอยู่กับอุณ หภูมิและความหนาแน่นและปริมาณของอากาศที่ถูกดูดผ่านH ot film นี้ ECU จะนำข้อมูลนี้ไปคำนวณเป็นค่าปริมาณอากาศ (Volume air flow)เพื่อปรับการจ่ายน้ำมันไปยังหัวฉีดให้มีส่วนผสม ที่พอดี

– หัวฉีดในระบบนี้เป็นหัวฉีดไฟฟ้าโดยจะฉีดแบบเป็นจังหว ะ(Sequentially) ตามการสั่งการของ ECU ซึ่งจะมีความเที่ยงตรงและแม่นยำในการจ่ายน้ำมันมากกว ่าแบบฉีดตลอดเวลาแบบใน KE Jetronic

– มีระบบควบคุมการน้อค โดยใช้น้อคเซนเซอร์ อันนี้ดีมาก ถูกใจใครหลายๆคน เพราะว่าจะสามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลากหลายตั้ง แต่ แก้ส LPG ,เบนซิน95 ไปจนถึง 91 (น้ำมันมะพร้าวยังใช้ไม่ได้นะครับ)โดยไม่ต้องปรับอะไ รเลย โดย ECU จะคำนวณหาองศาการจุดระเบิดที่ดีที่สุดให้เอง แล้วถ้าเกิดสูบใดสูบหนึ่งไฟแรงสูงขัดข้องไม่ยอมจุดหั วเทียน ECU ก็จะสั่งการตัดสะเบียง..เอ๊ย ตัดน้ำมันในสูบนั้นทันที อะไรจะฉลาดปานนั้น..

– มีระบบกลไกที่ใช้ไฟฟ้าร่วมกับไฮดรอลิค เพื่อปรับองศาเพลาลูกเบี้ยวของวาวล์ไอดีให้ได้ประสิท ธิภาพสูงสุดที่รอบต่างๆ แรงม้าจะมาเต็มๆ

– สำหรับเครื่อง 6 สูบ จะมีการใช้คลื่นแรงดัน (Pressure wave) ที่จะสะท้อนกลับไปกลับมา ณ ที่ความยาวท่ออันหนึ่ง (Resonance)มาใช้ประโยชน์ โดยปรกติความเร็วของคลื่นในท่อไอดีจะประมาณ 1,400 ฟุต/วินาที(ขึ้นอูย่กับอุณหภูมิด้วยถ้าร้อนขึ้นจะเร็วขึ้ นเช่นในท่อไอเสียจะมีความเร็วประมาณ 1,700 ฟุต/วินาที) โดยการคำนวณความยาวของท่อใอดีให้คลื่นแรงดันในซีกบวก วิ่งกลับมาดันส่วนผสมอากาศ/น้ำมันให้ผ่านเข้าไปในช่องวาวล์ไอดีซึ่งมีอยู่ ถึงสูบ ละสองช่องในช่วงที่วาวล์ไอดีเปิดพอดีให้มากขึ้น ณ ที่รอบที่ต้องการแรงบิดสูง เช่นในรอบต่ำๆที่ใช้ในการออกรถ โดยทำเป็นท่อแยกหลังลิ้นเร่ง 2 ชุด ชุดละ 3 สูบ ใช้ระบบลม(Pneumatically)ดันลิ้นอากาศให้ปิด-เปิด เพื่อเปลี่ยนความยาวของท่อไอดีได้ โดยที่ความเร็วต่ำจะเปิดใช้ท่อยาวเพื่อเพิ่มแรงบิดให ้เครื่องยนต์ เมื่อความเร็วสูงจะเปิด 2 ท่อพร้อมกันทั้งสั้นและยาวเพื่อให้อากาศเข้าได้มากที ่สุด ที่นี้ก็วิ่งโลด !! แหมมีระบบช่วยเยอะ

 

copy form  benzowner.net marnit

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *